Review- Demon Slayer -Kimetsu no Yaiba- Sweep the Board! กระดานพิฆาตอสูร

เรตเกม PEGI: 12 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปเมื่อการ์ตูนดังสุดโหดเลือดสาดแขนขาขาดกระจาย ถูกจับมาดัดแปลงกลายเป็นมินิเกมปาร์ตี้สดใสไร้พิษภัยสำหรับเด็กเล็กและครอบครัว
สำหรับ Demon Slayer -Kimetsu no Yaiba- Sweep the Board! หรือ ดาบพิฆาตอสูร ฉบับเกมเศรษฐีนั้น มันเคยออกวางจำหน่ายไปแล้วก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายนบนเครื่องคอนโซล นินเทนโด สวิตช์ ซึ่งตัวเกมที่เรานำมารีวิวในวันนี้ก็คือเวอร์ชัน เพลย์สเตชัน 5 ที่พอร์ตลงมาภายหลังอีกทีโดยที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการบังคับควบคุม นั่นเอง
อย่างที่ทราบกันดี ระบบการเล่นของมันจะดูคล้ายคลึงกับเกม Mario Party ที่ให้ผู้เล่นทอยลูกเต๋าพาตัวละครนับก้าวเดินไปตามจำนวนเลขที่ทอยได้ ตกช่องไหนก็รับโบนัสหรือต้องร่วมสนุกทำกิจกรรมที่ช่องนั้นกำหนด บางช่องเราอาจได้สมาชิกเพื่อนรวมทาง ในขณะที่บางช่องอาจต้องเล่นมินิเกมแข่งขันกัน ทั้งหมดก็เพื่อเก็บสะสมจำนวนแต้ม Rank Points หากใครเก็บสะสมได้มากสูงสุดเมื่อจบกระดานก็จะกลายเป็นผู้ชนะ!
จุดเด่นของเกมอยู่ตรงที่ระบบกลางวันและกลางคืน ทุกครั้งที่เราเล่นจะเริ่มต้นจากช่วงเวลากลางวันสนุกสนานไปกับหลากมินิเกมที่เราต้องแข่งขันชิงชัยกับเพื่อนอีก 3 คน แต่ทว่าเมื่อไหรก็ตามที่มีผู้เล่นคนหนึ่งเดินไปถึงจุดหมายปลายทางที่กำหนด ระบบก็จะเปลี่ยนเป็นช่วงเวลากลางคืน มีช่องอสูรปีศาจระดับลูกสมุนรวมไปถึงบอสใหญ่ปรากฏขึ้นมาบนกระดาน ซึ่งเหล่านักล่าอสูรทั้ง 4 คนจากที่เคยเป็นศัตรูคู่แข่งจะต้องสมัครสมานสามัคคีจับมือเฉพาะกิจชั่วคราวเพื่อร่วมด้วยช่วยกันปัดป้องฟาดฟันปราบพวกมันลงให้สำเร็จ หากว่าพวกเราทำได้พระอาทิตย์ก็จะขึ้นและตัวเกมก็จะสลับกลับมาเป็นช่วงเวลากลางวัน แข่งขันเล่นมินิเกมกันดั่งเดิมเหมือนปกติ
ซึ่งเราจะเห็นความสวยงามของมันแบบเต็มที่ก็ในตอนที่เราได้ปะทะต่อสู้กับเหล่าบอสทั้งหลายภายในเกม เรียกว่างดงามงานดีราวกับถอดแบบมาจากเวอร์ชันอนิเมะที่ฉายในทีวีเลยทีเดียว
รูปแบบกระดานที่มีให้เลือกเล่นภายในเกมจะมีอยู่ด้วยกัน 5 บอร์ด แต่ละบอร์ดก็ดีไซน์แผนผังจำลองสภาพแวดล้อมอ้างอิงตามอนิเมะต้นฉบับในแต่ละซีซั่น เริ่มต้นตั้งแต่บอร์ดแรกในภูเขาฟูจิคาซาเนะที่ใช้ทดสอบบรรจุนักล่าอสูรหน้าใหม่ซึ่งเราต้องปราบอสูรมือผู้มีแขนพันรอบตัว, บอร์ดสองหุบเขานาตากุโมะที่เราต้องเผชิญหน้ากับอสูรจันทราอย่าง รุย, บอร์ดสามที่ทำเป็นทางรถไฟสู้กับบอสอสูรข้างขึ้นอย่าง อาคาสะ, บอร์ดสี่ย่านเริงรมย์ที่มีอสูรสองพี่น้องดาคิกับกิวทาโรเป็นบอสใหญ่ ไปจนถึงบอร์ดสุดท้ายลำดับที่ห้าซึ่งจบลงตรงหมู่บ้านช่างตีดาบ
สำหรับตัวะครที่สามารถเลือกเล่นได้ก็จะมีเหล่าตัวเอก ทันจิโร่, เซนอิทสึ และ อิโนะซูเกะ ร่วมด้วยเหล่าตัวละครเสาหลักทั้งหลาย ส่วนตัวน้องสาว เนซึโกะ นั้นเธอจะปรากฏกายโผล่มาตอนกลางคืนในฐานะตัวละครผู้ช่วย คอยสนับสนุนให้ความช่วยเหลือผู้เล่นที่ตกหล่นรั้งท้ายขบวน
เท่าที่ลองนับดู มินิเกมที่ขนมาให้พวกเราได้สนุกเฮฮากันนั้นมันมีมากมายประมาณ 30+ เลยทีเดียว มีทั้งมินิเกมที่ดัดแปลงหยิบฉากเหตุการณ์สำคัญต่างๆในการ์ตูนมาสร้างอย่างมินิเกมเปิดหากล่องไม้ที่ซ่อน เนซึโกะ เอาไว้เป็นต้นและมินิเกมในแบบที่ทีมพัฒนาคิดค้นขึ้นมาเอง เช่น ตีเทนนิส, ปาหิมะ, ชนลูกข่าง, ดีดกบ, กระโดดเชือก, ยิงเป้า อะไรทำนองนี้ ซึ่งถ้าใครไม่อยากทนเล่นในโหมดกระดานเศรษฐีที่ค่อนข้างกินเวลานาน ก็สามารถเลือกเล่นมินิเกมเหล่านี้ได้โดยตรงผ่านโหมด Skill Training แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ตัวเกมพอร์ตมาลงให้กับเครื่องคอนโซลที่พึ่งพาคอนโทรลเลอร์และก้านอนาล็อกในการบังคับควบคุมแทนฟังก์ชันตรวจจับการเคลื่อนไหว อาจทำให้บางมินิเกมที่ต้องเลื่อนเป้าเล็งยิงหรือฉากสู้กับบอสที่ต้องสะบัดแขนฟาดฟันดาบนั้นรู้สึกอรรถรสมันหดหายไม่ได้ฟีลอย่างที่ควรเป็น
อีกหนึ่งข้อจำกัดของเกมกระดานเศรษฐี นั่นคือมันจะสนุกสนานฮาเฮได้ก็ต่อเมื่อคุณล้อมวงนั่งเล่นร่วมกันแบบพร้อมหน้า 4 คน จริงอยู่ที่ตัวเกมมีโหมดออนไลน์มาให้และเราสามารถเล่นออฟไลน์คนเดียว แข่งกับบอทได้ แต่ความบันเทิงที่ได้รับกลับไกลห่างต่างกันแบบคนละเรื่องเลย เพราะรูปแบบการเล่นที่กินเวลานานต้องรอคอยให้อีกฝ่ายทอยลูกเต๋าเวียนวนไปจนครบทีละคนนั้น หากไม่ได้เป็นแก๊งค์เพื่อนที่สนิทกันจริงๆหรือไม่ได้เล่นกับพี่ป้าน้าอาบุตรหลานเราคงมีบ่นรำคาญกันบ้างแหละ แถม AI ภายในเกมเองก็โคตรเก่งรู้หมดว่าต้องเดินไปเส้นทางลัดไหนถึงจะไวสุด บอสจะโผล่มาตรงจุดไหนของแผนที่ กำหนดได้แม้กระทั่งตัวเลขบนลูกเต๋าทอยแม่นยำราวกับจับวาง พวกมินิเกมจุดดึงดูดน่าสนใจตามรายทางพวกมันไม่เคยให้ความสำคัญเลย มัวแต่มุ่งหน้าพุ่งตรงดิ่งไปยังเป้าหมายปลายทางแบบเร่งรีบเพื่อให้จบเกมไวๆ จัด AI ลงมา 3 ตัวก็เดินไปในทิศทางเดียวกันหมดทั้ง 3 ตัว เรียกว่าเล่นกับพวกสมองกล AI มันไม่มีความหลากหลายชวนให้สนุกลุ้นหรือตื่นเต้นใดๆเลย
“ความรู้สึกหลังจากที่ได้ลองสัมผัส Demon Slayer -Kimetsu no Yaiba- Sweep the Board! มาสักพัก อารมณ์มันเหมือนกับเรานำของสองสิ่งที่ดูแล้วไม่เข้ากันมาพยายามผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน มันจึงค่อนข้างขัดแย้งในตัว จะเจาะกลุ่มฐานแฟนคลับการ์ตูนเรื่องนี้ที่ชื่นชอบแอ็คชั่นการฟันดาบและความน่ากลัวเกรงขามของพวกปีศาจก็คงยาก จะเจาะกลุ่มตลาดเด็กเล็กที่ยังโตไม่ถึงวัยดูการ์ตูนที่เต็มไปด้วยเลือดและความรุนแรง เหล่าพ่อแม่ผู้ปกครองก็คงตัดสินใจซื้อลำบาก เพราะถ้าหากคุณเพียงแค่ต้องการเกมแนวปาร์ตี้สนุกสนานมาไว้ติดบ้าน มันก็มีตัวเลือกอื่นๆอีกตั้งมากมายที่ดีและตรงโจทย์มากกว่า ไม่จำต้องเป็น ดาบพิฆาตอสูร”

เกมเพลย์ 6
กราฟิก 8
เสียง 8
ปริมาณเนื้อหา           5
ความคุ้มค่า 5
ภาพรวม 6.4

ข้อดี: ฉากแอนิเมชั่น-โมเดลตัวละครทำออกมาสวยงามตามมาตรฐาน CyberConnect2, มินิเกมขนมาให้เลือกเล่นหลากหลาย และเป็นเกมที่อัปเดตไล่หลังอนิเมะที่สุดแล้ว ณ ปัจจุบันข้อเสีย: ต้องหาสมาชิกครอบครัวหรือเพื่อน 4 คนมาเล่นข้างกันถึงจะสนุก, การควบคุมที่เปลี่ยนมาใช้อนาล็อกไม่ได้อารมณ์เหมือนจอยคอน, AI สายมุ่งเดินพุ่งตรงดิ่งหาเป้าหมายไม่สนใจสิ่งต่างๆรอบข้าง, เนื้อหาน้อยนิดมีแค่เอาแต้มมาสุ่มกาชาแต่งรูปโปรไฟล์, ราคาขายที่ตั้งสูงเกินไปสำหรับเกมที่ไม่ค่อยมีอะไร และเป็นการนำเสนอ ดาบพิฆาตอสูร ในแบบเชื่องช้าน่าเบื่อที่สุดในสามโลก SEGA

*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

เรตเกม PEGI: 12 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปเมื่อการ์ตูนดังสุดโหดเลือดสาดแขนขาขาดกระจาย ถูกจับมาดัดแปลงกลายเป็นมินิเกมปาร์ตี้สดใสไร้พิษภัยสำหรับเด็กเล็กและครอบครัวสำหรับ Demon Slayer -Kimetsu no Yaiba- Sweep the Board! หรือ ดาบพิฆาตอสูร ฉบับเกมเศรษฐีนั้น มันเคยออกวางจำหน่ายไปแล้วก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายนบนเครื่องคอนโซล นินเทนโด สวิตช์ ซึ่งตัวเกมที่เรานำมารีวิวในวันนี้ก็คือเวอร์ชัน เพลย์สเตชัน 5 ที่พอร์ตลงมาภายหลังอีกทีโดยที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการบังคับควบคุม นั่นเองอย่างที่ทราบกันดี ระบบการเล่นของมันจะดูคล้ายคลึงกับเกม Mario Party ที่ให้ผู้เล่นทอยลูกเต๋าพาตัวละครนับก้าวเดินไปตามจำนวนเลขที่ทอยได้ ตกช่องไหนก็รับโบนัสหรือต้องร่วมสนุกทำกิจกรรมที่ช่องนั้นกำหนด บางช่องเราอาจได้สมาชิกเพื่อนรวมทาง ในขณะที่บางช่องอาจต้องเล่นมินิเกมแข่งขันกัน ทั้งหมดก็เพื่อเก็บสะสมจำนวนแต้ม Rank Points หากใครเก็บสะสมได้มากสูงสุดเมื่อจบกระดานก็จะกลายเป็นผู้ชนะ!จุดเด่นของเกมอยู่ตรงที่ระบบกลางวันและกลางคืน ทุกครั้งที่เราเล่นจะเริ่มต้นจากช่วงเวลากลางวันสนุกสนานไปกับหลากมินิเกมที่เราต้องแข่งขันชิงชัยกับเพื่อนอีก 3 คน แต่ทว่าเมื่อไหรก็ตามที่มีผู้เล่นคนหนึ่งเดินไปถึงจุดหมายปลายทางที่กำหนด ระบบก็จะเปลี่ยนเป็นช่วงเวลากลางคืน มีช่องอสูรปีศาจระดับลูกสมุนรวมไปถึงบอสใหญ่ปรากฏขึ้นมาบนกระดาน ซึ่งเหล่านักล่าอสูรทั้ง 4 คนจากที่เคยเป็นศัตรูคู่แข่งจะต้องสมัครสมานสามัคคีจับมือเฉพาะกิจชั่วคราวเพื่อร่วมด้วยช่วยกันปัดป้องฟาดฟันปราบพวกมันลงให้สำเร็จ หากว่าพวกเราทำได้พระอาทิตย์ก็จะขึ้นและตัวเกมก็จะสลับกลับมาเป็นช่วงเวลากลางวัน แข่งขันเล่นมินิเกมกันดั่งเดิมเหมือนปกติ ซึ่งเราจะเห็นความสวยงามของมันแบบเต็มที่ก็ในตอนที่เราได้ปะทะต่อสู้กับเหล่าบอสทั้งหลายภายในเกม เรียกว่างดงามงานดีราวกับถอดแบบมาจากเวอร์ชันอนิเมะที่ฉายในทีวีเลยทีเดียวรูปแบบกระดานที่มีให้เลือกเล่นภายในเกมจะมีอยู่ด้วยกัน 5 บอร์ด แต่ละบอร์ดก็ดีไซน์แผนผังจำลองสภาพแวดล้อมอ้างอิงตามอนิเมะต้นฉบับในแต่ละซีซั่น เริ่มต้นตั้งแต่บอร์ดแรกในภูเขาฟูจิคาซาเนะที่ใช้ทดสอบบรรจุนักล่าอสูรหน้าใหม่ซึ่งเราต้องปราบอสูรมือผู้มีแขนพันรอบตัว, บอร์ดสองหุบเขานาตากุโมะที่เราต้องเผชิญหน้ากับอสูรจันทราอย่าง…